ประกาศนโยบายเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมในประเทศไทย
(“ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับประเทศไทย”)

มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565

ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับประเทศไทยฉบับนี้นำมาใช้บังคับกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมในประเทศไทย หรือที่ประมวลผลในส่วนของบริษัทในเครือในประเทศไทย (“ข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทย”) โดยไม่นำมาใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมในประเทศอื่น ๆ

หากท่านได้รับบัตรเจซีบีจากผู้ออกบัตรซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ท่านควรศึกษาข้อมูลจากเว็บไซต์ของผู้ออกบัตรดังกล่าวในส่วนของประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวซึ่งจะนำมาใช้บังคับใช้กับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

เจซีบี กรุ๊ป (เจซีบี คัมพานี ลิมิเต็ด และบริษัทในเครือ) รับทราบว่า การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นหน้าที่ตามกฎหมายที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งของเจซีบี กรุ๊ป

ดังที่จะอธิบายต่อไป ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับประเทศไทยฉบับนี้นำมาใช้บังคับกับกิจกรรมของ

เจซีบี คัมพานี ลิมิเต็ด (“เจซีบี คัมพานี”) อาโอยามะ ไรส์ สแควร์ 5-1-22 มินามิ อาโอยามะ
มินาโตะ-กุ โตเกียว 107-8686
เจซีบี อินเตอร์เนชั่นแนล คัมพานี ลิมิเต็ด (“เจซีบีไอ”) อาโอยามะ ไรส์ สแควร์ 5-1-22 มินามิ อาโอยามะ
มินาโตะ-กุ โตเกียว 107-8686
บริษัท เจซีบี อินเตอร์เนชั่นแนล
(ประเทศไทย) จำกัด (“เจซีบีไอทีเอช”)
500 อาคารอัมรินทร์ พลาซ่า ชั้น 9 ห้องเลขที่ 3 ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10310

บริษัทดังกล่าวเรียกรวมกันและแทนกันว่า “บริษัทฯ”

ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับประเทศไทยฉบับนี้แสดงถึง ข้อมูลส่วนบุคคลใดในประเทศไทยที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม บริษัทฯ เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลดังกล่าวอย่างไร และสิทธิของท่านเกี่ยวกับวิธีการที่บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่าน บริษัทฯ ให้คำมั่นว่าจะร่วมปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่านในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลตามหน้าที่ของบริษัทฯ ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย (“พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ”) และกฎหมายที่ใช้บังคับอื่น ๆ ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับประเทศไทยฉบับนี้นำมาใช้บังคับกับบริษัทฯ ทั้งหมด และเพื่อความสะดวกของท่าน ท่านอาจใช้สิทธิใด ๆ ของท่านกับบริษัทฯ และบริษัทฯ จะดำเนินการให้มีการส่งเรื่องดังกล่าวไปยังหน่วยงานที่ถูกต้อง

นอกจากนี้ โปรดดู “นโยบายคุกกี้” ของบริษัทฯ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมเมื่อท่านเข้าไปยังเว็บไซต์ของบริษัทฯ และข้อมูลนั้นถูกนำมาประมวลผลอย่างไร

1. การเก็บรวบรวม การใช้ และหลักเกณฑ์ทางกฎหมายของข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทย

บริษัทฯ ได้ระบุรายละเอียดประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ไว้ด้านล่างนี้ในรูปแบบตาราง ไม่ว่าบริษัทฯ กระทำการในฐานะผู้ควบคุมข้อมูล หรือผู้ประมวลผลข้อมูล แหล่งที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูล บริษัทฯ วางแผนการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่านอย่างไร ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์ทางกฎหมายที่บริษัทฯ ยึดถือในการดำเนินการดังกล่าว

ท่านสามารถดูข้อ 11 คำศัพท์สำหรับคำอธิบายความหมายของคำต่าง ๆ ที่ใช้ในตารางด้านล่างนี้

ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทย แหล่งของข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทย การใช้ บริษัทเจซีบีที่เกี่ยวข้อง หน้าที่ของ เจซีบี หลักเกณฑ์ทางกฎหมาย
ข้อมูลการทำธุรกรรมเกี่ยวกับธุรกรรมการชำระเงินด้วยบัตรโดยผู้ถือบัตร ซึ่งรวมถึงข้อมูลบัตร ข้อมูลธุรกรรม (เวลา วันที่ และจำนวนเงิน) และข้อมูลร้านค้า (ชื่อและสถานที่ตั้ง) การใช้บัตรของเจซีบี บัตรที่ผู้ออกบัตรได้รับแฟรนไชส์ และบัตรที่ผู้ออกโดยบุคคลภายนอก

ร้านค้าและผู้รับบัตร
อนุมัติ ชำระ และดำเนินธุรกรรม และบัตรที่ผู้ออกบัตรได้รับแฟรนไชส์ เจซีบี คัมพานี ผู้ควบคุมข้อมูล *1 สัญญา
สนับสนุนการดำเนินงานของพันธมิตรที่มีความใกล้ชิดของบัตรของเจซีบีและบัตรที่ผู้ออกบัตรได้รับแฟรนไชส์
สับเปลี่ยนคำขอยืนยันตัวตน/การตอบข้อความ และข้อมูลการชำระเงินระหว่างผู้ออกบัตรที่เป็นบุคคลภายนอก ผู้รับบัตร และร้านค้า เจซีบี คัมพานีและเจซีบีไอ ผู้ประมวลผลข้อมูล *1 หลักเกณฑ์ทางกฎหมายของข้อมูลประเภทนี้จะได้รับการกำหนดโดยผู้ควบคุมข้อมูล (ร้านค้า ผู้รับบัตร ผู้ออกบัตร เป็นต้น)
ประมวลผลข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการจัดการร้านค้า ผู้รับบัตร ผู้ออกบัตรที่ได้รับแฟรนไชส์ ผู้ออกบัตรที่เป็นบุคคล ภายนอก และการจัดการข้อซักถาม เจซีบี คัมพานี และเจซีบีไอ

เจซีบีไอทีเอช
ผู้ประมวลผลข้อมูล*1

ผู้ประควบคุมข้อมูล
สัญญาสำหรับบัตรของเจซีบีและบัตรที่ผู้ออกบัตรได้รับแฟรนไชส์

ผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายสำหรับผู้ออกบัตรที่เป็นบุคคลภายนอก
สนับสนุนการดำเนินงานของผู้ออกบัตร ผู้รับบัตร หรือร้านค้า หรือให้ หรือส่งเสริมการขายสินค้าและบริการสำหรับผู้ถือบัตรเจซีบีและร้านค้า
พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่สำหรับธุรกิจของบริษัทฯ
เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการตลาด
วัดประสิทธิภาพของการโฆษณา การเผยแพร่ และการตลาด
สืบสวนและวิเคราะห์เพื่อประโยชน์ด้านการบัญชีและการตรวจสอบ
ข้อมูลบัตรที่เก็บรวบรวมจากผู้ถือบัตร ซึ่งรวมถึงหมายเลขบัตร ชื่อผู้ถือบัตร และข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ผู้ถือบัตร จัดการข้อซักถามใด ๆ ของผู้ถือบัตร เจซีบี คัมพานี และเจซีบีไอ ผู้ควบคุมข้อมูล*1 สัญญาสำหรับบัตรของเจซีบี และบัตรที่ผู้ออกบัตรได้รับแฟรนไชส์

ผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายสำหรับผู้ออกบัตรที่เป็นบุคคลภายนอก
เจซีบีไอทีเอช ผู้ควบคุมข้อมูล
ข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยเกี่ยวกับบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสำหรับผู้ใช้บริการเจซีบี พลาซ่า เลานจ์ ซึ่งรวมถึงหมายเลขบัตร ชื่อ และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ข้อมูลซึ่งโดยทั่วไปที่ต้องใช้สำหรับการจอง ซึ่งอาจรวมถึงเพศ เลขที่หนังสือเดินทาง ของผู้เดินทางและราย ละเอียดของผู้ที่มาพร้อมกับผู้เดินทาง การเข้าเยี่ยมชม หรือการโทรศัพท์ไปยังเจซีบี พลาซ่า เลานจ์ ให้บริการด้านการเดินทาง และการต้อนรับที่เหมาะสมแก่ผู้ถือบัตรเจซีบี เจซีบี คัมพานี เจซีบีไอ และเจซีบีไอทีเอช ผู้ควบคุมข้อมูล ผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมาย
พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่สำหรับธุรกิจของบริษัทฯ
เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการตลาด
วัดประสิทธิภาพของการโฆษณา การเผยแพร่ และการตลาด
ประเมินผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ
ข้อมูลกิจกรรมส่งเสริมการขายและการตลาดของบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงหมายเลขบัตร ข้อมูลผู้ถือบัตร (ชื่อ ที่อยู่อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ เป็นต้น) ข้อมูลธุรกรรม (เวลา วันที่ และจำนวนเงิน) ข้อมูลประจำตัวอิเล็กทรอนิกส์สำหรับการเข้าสู่เว็บไซต์ (ที่อยู่ไอพี) การใช้บัตรของเจซีบี บัตรของผู้ออกบัตรที่ได้รับแฟรนไชส์ และบัตรของผู้ออกบัตรที่เป็นบุคคลภายนอก

ร้านค้าและผู้รับบัตร

การโต้ตอบสื่อสารกับเว็บไซต์ของเจซีบี แอปพลิเคชั่นสำหรับโทรศัพท์มือถือ แพลทฟอร์มออนไลน์
อื่น ๆ (เช่น เฟสบุ๊ค)
ให้บริการด้านส่งเสริมการขายและด้านการตลาด เจซีบี คัมพานี เจซีบีไอ

เจซีบีไอทีเอช
ผู้ควบคุมข้อมูล*1

ผู้ควบคุมข้อมูล
สัญญาสำหรับบัตรของเจซีบี และบัตรที่ผู้ออกบัตรได้รับ
แฟรนไชส์

ประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายสำหรับผู้ออกบัตรที่เป็นบุคคลภายนอก
เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการตลาด
วัดประสิทธิภาพของการโฆษณา การเผยแพร่ และการตลาด
ปรับปรุงฟังก์ชั่นของเว็บไซต์และแอปพลิเคชันสำหรับโทรศัพท์มือถือของ
บริษัทฯ
แจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงบนเว็บไซต์ของบริษัทฯ
ข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยเกี่ยวกับบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสำหรับผู้ใช้บริการ
เจซีบี ไทยแลนด์ ออฟฟิเชียล แอคเคานท์ (JCB Thailand Official Account) ซึ่งรวมถึงหมายเลขบัตร ชื่อ และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ
การใช้และลงทะเบียน เจซีบี ไทยแลนด์ ออฟฟิเชียล แอคเคานท์ เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการตลาด เจซีบีไอ และเจซีบีไอทีเอช ผู้ควบคุมข้อมูล ความยินยอม
ข้อมูลการระงับข้อพิพาท ซึ่งรวมถึงหมายเลขบัตร ข้อมูลผู้ถือบัตร (ชื่อ ที่อยู่อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ เป็นต้น) ข้อมูลธุรกรรม (เวลา วันที่ และจำนวนเงิน) ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า (ชื่อและสถานที่ตั้ง) และใบบันทึกรายการขาย (เซลล์สลิป) ผู้ถือบัตร

การใช้บัตรของเจซีบี บัตรของผู้ออกบัตรที่ได้รับแฟรนไชส์ และบัตรของผู้ออกบัตรที่เป็นบุคคลภายนอก

ผู้ออกบัตรที่ได้รับ
แฟรนไชส์ ผู้ออกบัตรที่เป็นบุคคลภายนอก ผู้รับบัตร และร้านค้า
ไกล่เกลี่ย หรือเสนอข้อพิพาท (arbitrate) ระหว่างผู้ถือบัตรเจซีบี ผู้ออกบัตร ผู้รับบัตร หรือร้านค้า เพื่อระงับข้อพิพาท เจซีบี คัมพานี เจซีบีไอ ผู้ควบคุมข้อมูล*1 สัญญาสำหรับการระงับข้อพิพาทกับผู้ถือบัตรของเจซีบี และผู้ถือบัตรของผู้ออกบัตรที่ได้รับแฟรนไชส์

ประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายสำหรับข้อพิพาทกับผู้ถือบัตรที่ผู้ออกบัตรเป็นบุคคล ภายนอก
เจซีบีไอทีเอช ผู้ควบคุมข้อมูล
ข้อมูลการติดต่อธุรกิจซึ่งรวมถึงบริษัทและข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยสำหรับผู้ออกบัตร ผู้รับบัตร ร้านค้า พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ประมวลผล ข้อมูล เป็นต้น (ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล) การติดต่อการค้ากับผู้ออกบัตรที่เป็นบุคคลภายนอก
ผู้รับบัตร ร้านค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และผู้ประมวลผลข้อมูล
เพื่อทำให้การค้ากับบุคคลภายนอกเหล่านี้สัมฤทธิ์ผลและอำนวยความสะดวกในการติดต่อ เจซีบี คัมพานี เจซีบีไอ และเจซีบีไอทีเอช ผู้ควบคุมข้อมูล ผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมาย
ข้อมูลการจ้างงานเกี่ยวกับพนักงาน เช่น ชื่อ ที่อยู่ วันเกิด หมายเลขโทรศัพท์ เพศ และข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินงาน ใบสมัครงาน การแจ้งโดยพนักงาน และการสัมภาษณ์ ปฏิบัติหน้าที่ความรับผิดชอบของนายจ้าง และถ่ายโอนข้อมูลให้แก่ผู้รับจ้างช่วง เจซีบี คัมพานี เจซีบีไอ และเจซีบีไอทีเอช ผู้ควบคุมข้อมูล สัญญา
หรือ
ความยินยอม
การติดตามดูแล และ/หรือป้องกันธุรกรรมที่ทุจริต การใช้บัตรของเจซีบี บัตรของผู้ออกบัตรที่ได้รับแฟรนไชส์ และบัตรของผู้ออกบัตรที่เป็นบุคคลภายนอก ผู้รับบัตร ผู้ให้บริการโซลูชั่นยืนยันตัวตนบนพื้นฐานความเสี่ยงและร้านค้า
ผู้ออกบัตรที่ได้รับ
แฟรนไชส์ ผู้ออกบัตรที่เป็นบุคคลภายนอก ผู้รับบัตร และร้านค้า
ติดตามดูแล และ/หรือป้องกันธุรกรรมที่ทุจริต เจซีบี คัมพานี เจซีบีไอ และเจซีบีไอทีเอช ผู้ควบคุมข้อมูล ผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายจากการปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับกับบริษัทฯ
หรือ
หน้าที่ตามกฎหมาย
แจ้งผลให้ผู้ออกบัตรที่ได้รับแฟรนไชส์ หรือผู้ออกบัตรที่เป็นบุคคลภายนอกทราบ
ข้อมูลการยืนยันตัวตนในการทำธุรกรรมเกี่ยวกับการระบุตัวตนของผู้ถือบัตรผ่านบริการยืนยันตัวตนเจ/ซีเคียว ซึ่งรวมถึงข้อมูลการซื้อ (หมายเลขบัตร วันที่ เวลา สกุลเงิน จำนวนเงิน ที่อยู่สำหรับส่งใบแจ้งหนี้ให้แก่ผู้ถือบัตร ที่อยู่ในการจัดส่ง ชื่อผู้ถือบัตร ที่อยู่อีเมลของผู้ถือบัตร และหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ถือบัตร) ข้อมูลร้านค้า (ชื่อและสถานที่ตั้ง) และข้อมูลอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของผู้ถือบัตร (ที่อยู่ไอพี ข้อมูลสถานที่ตั้ง ประเภทของระบบปฏิบัติการ ภาษาของระบบ ปฏิบัติการ หมายเลขประจำอุปกรณ์ ข้อมูลซิม และหมายเลขประจำเครื่องของฮาร์ดแวร์) (เรียกรวมกันว่า ข้อมูลที่เป็นลักษณะเฉพาะ) *2 การใช้บัตรของเจซีบี บัตรของผู้ออกบัตรที่ได้รับแฟรนไชส์ และบัตรของผู้ออกบัตรที่เป็นบุคคลภายนอก ร้านค้า อุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของผู้ถือบัตร ติดตามดูแลและป้องกันธุรกรรมที่ทุจริตสำหรับบัตรของเจซีบี และบัตรของผู้ออกบัตรที่ได้รับ แฟรนไชส์ เจซีบี คัมพานี ผู้ควบคุมข้อมูล สำหรับบัตรของเจซีบี และบัตรของผู้ออกบัตรที่ได้รับ แฟรนไชส์ : สัญญาและประโยชน์ที่ชอบกฎหมายของการปฏิบัติตามกฎหมายและกฎข้อบังคับซึ่งใช้บังคับกับบริษัทฯ เช่น โดยการตรวจหา การสอบสวน การประเมินผล การติดตาม และการป้องกันการทุจริต และอาชญากรรมอื่น ๆ การลดความเสี่ยงทางการเงินและทางธุรกิจ และ/หรือการปฏิบัติตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (AML) กฎหมายป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย (CTF) และกฎหมายป้องกันและปราบปรามการให้สินบนและการทุจริต (ABC) และกฎหมายที่คล้ายคลึงกัน
สับเปลี่ยนคำขอยืนยันตัวตน /ตอบข้อความระหว่างผู้ออกบัตรที่เป็นบุคคลภายนอก และร้านค้า เจซีบี คัมพานี ผู้ประมวล ผลข้อมูล*1 หลักเกณฑ์ตามกฎหมายของข้อมูลประเภทนี้จะถูกกำหนดโดยผู้ควบคุมข้อมูล (ร้านค้า ผู้รับบัตร ผู้ออกบัตร เป็นต้น)
ยินยอมให้ผู้ให้บริการโซลูชั่นยืนยันตัวตนคำนวณคะแนนความเสี่ยงซึ่งอาจนำมาใช้โดยบุคคล ภายนอกโดยเป็นส่วนหนึ่งของบริการของผู้ให้บริการโซลูชั่นยืนยันตัวตนบนพื้นฐานความเสี่ยง แต่เฉพาะในรูปแบบนามแฝง และในลักษณะที่บุคคล ภายนอกไม่สามารถระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลใด ๆ จากข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยได้ เจซีบี คัมพานี ผู้ควบคุมข้อมูล*1 สำหรับบัตรของเจซีบี และบัตรของผู้ออกบัตรที่ได้รับ
แฟรนไชส์: สัญญา

สำหรับการใช้งานของผู้ให้บริการโซลูชั่นยืนยันตัวตนบนพื้นฐานความเสี่ยง โปรดดูประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวของข้อมูลบุคคลเหล่านั้น
ข้อมูลสถานที่ตั้งและที่อยู่ไอพี*2 การใช้เว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นสำหรับโทรศัพท์ มือถือของเจซีบี เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานทราบสถานที่ตั้งของร้านค้าและตู้เอทีเอ็มที่อยู่ใกล้เคียง เจซีบี คัมพานี ผู้ควบคุมข้อมูล ความยินยอมและสัญญาสำหรับบัตรของเจซีบี และบัตรของผู้ออกบัตรที่ได้รับแฟรนไชส์

ความยินยอมสำหรับบัตรของผู้ออกบัตรที่เป็นบุคคลภายนอก
  • *1

    โปรดทราบว่าบริษัทเจซีบีมีสถานะอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่า บริษัทเจซีบีอาจจะกระทำการในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลนอกเหนือจาก พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลฯ ในกิจกรรมเดียวกัน

  • *2

    โปรดทราบว่า การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยบางประเภทอาจไม่อยู่ภายใต้บังคับของพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ เมื่ออุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของผู้ถือบัตรถูกใช้งานในประเทศต่าง ๆ นอกจากประเทศไทย

โปรดทราบว่า บริษัทฯ อาจถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ทางกฎหมายมากกว่าหนึ่งหลักเกณฑ์สำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล โดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่บริษัทฯ นำข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่านมาใช้ บริษัทฯ ยึดถือผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากบริษัทฯ ได้พิจารณาแล้วว่า การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนี้จะต้องดำเนินการโดยบริษัทฯ หรือผู้ควบคุมข้อมูลที่เป็นบุคคลภายนอกเพื่อให้มั่นใจว่า การดำเนินการกับบัตรเจซีบีของท่านและการชำระเงินสำหรับธุรกรรมต่าง ๆ มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ หรือเป็นผลประโยชน์ทางธุรกิจที่ชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ ในการพิจารณาดังกล่าว บริษัทฯ ได้คำนึงถึงสิทธิของท่านภายใต้พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ และทำให้สิทธิดังกล่าวสมดุลกับประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หากท่านมีข้อสงสัยประการใด ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ ได้ตามที่อยู่อีเมลที่ระบุในข้อ 12 ติดต่อบริษัทฯ ของประกาศนโยบายฉบับนี้

โดยทั่วไป บริษัทฯ ไม่ได้ถือความยินยอมของท่านเป็นหลักเกณฑ์ทางกฎหมายสำหรับการประมวลผลข้อมูลนอกจากในส่วนที่เกี่ยวกับสื่อสารด้านการตลาดทางตรงกับท่าน หรือการเก็บรวบรวมข้อมูลสถานที่ตั้งของท่านผ่านการโต้ตอบสื่อสารกับเว็บไซต์ของเจซีบี และแอพพลิเคชั่นสำหรับโทรศัพท์มือถือ ท่านมีสิทธิเพิกถอนความยินยอมของท่าน ณ เวลาใด ๆ ก็ได้ (สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูข้อ 6(4) สิทธิในการขอให้หยุดใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่านเพื่อการตลาดทางตรงด้านล่างนี้)

บริษัทฯ อาจใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดนอกจากที่ระบุไว้ข้างต้น หากเป็นกรณีเช่นนั้น บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์ตามกฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับ

2. ผู้รับ

เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ ตามที่ระบุในตารางข้างต้น บริษัทฯ อาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่านให้แก่กลุ่มผู้รับดังต่อไปนี้

(1) ผู้ออกบัตรที่ได้รับแฟรนไชน์

(2) ผู้ออกบัตรที่เป็นบุคคลภายนอก

(3) พันธมิตรที่มีความใกล้ชิด

(4) ร้านค้า

(5) ผู้รับบัตร

(6) ผู้ให้บริการ

(7) ผู้ให้บริการโปรแกรมโซลูชั่นยืนยันตัวตนบนพื้นฐานความเสี่ยง และ

(8) หน่วยงานราชการ

บริษัทฯ กำหนดให้บุคคลภายนอกทั้งหมดที่ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่านในนามของบริษัทฯ ต้องคำนึงถึงการคุ้มครองความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่าน และปฏิบัติต่อข้อมูลดังกล่าวตามหน้าที่ตามสัญญา หรือตามกฎหมายของบุคคลภายนอก

บริษัทฯ อาจจำเป็นต้องแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่านให้แก่ผู้รับมากกว่าที่ระบุข้างต้น หากเป็นกรณีเช่นนั้น บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงตามกฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับ

3. การตัดสินใจโดยอัตโนมัติ (Automated Decision Making)

การตัดสินใจโดยอัตโนมัติเกิดขึ้นเมื่อระบบอิเล็กทรอนิกส์ของบริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยเพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับท่าน หรือธุรกิจของท่าน โดยไม่มีมนุษย์เข้าแทรกแซง บริษัทฯ ได้รับอนุญาตให้ใช้การตัดสินใจโดยอัตโนมัติในกรณีดังต่อไปนี้

(1) อนุมัติธุรกรรม*3

(2) ยืนยันตัวตนในการทำธุรกรรม*3

(3) ตรวจหาธุรกรรมต้องสงสัย*4 และ

(4) ป้องกันและติดตามดูแลธุรกรรมที่ทุจริต*4

  • *3

    สำหรับบัตรของเจซีบี และบัตรของผู้ออกบัตรที่ได้รับแฟรนไชน์เท่านั้น

  • *4

    สำหรับบัตรของเจซีบี บัตรของผู้ออกบัตรที่ได้รับแฟรนไชน์ และบัตรของผู้ออกบัตรที่เป็นบุคคลภายนอก

ท่านไม่จำเป็นต้องตัดสินใจใด ๆ ที่จะมีผลกระทบทางกฎหมาย หรืออย่างมีนัยสำคัญต่อท่าน เฉพาะที่ขึ้นอยู่กับการประมวลผลข้อมูลโดยอัตโนมัติเท่านั้น เว้นแต่บริษัทฯ มีหลักเกณฑ์ทางกฎหมายสำหรับการดำเนินการดังกล่าว และบริษัทฯ ได้แจ้งให้ท่านทราบแล้ว สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องสิทธิของท่านเกี่ยวกับการตัดสินใจโดยอัตโนมัติ โปรดดูข้อ 6(8) สิทธิที่ไม่ต้องอยู่ภายใต้การตัดสินใจที่ขึ้นอยู่กับการประมวลผลข้อมูลโดยอัตโนมัติด้านล่างนี้

4. หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทย

ในกรณีที่บริษัทฯ จำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยตามกฎหมาย หรือภายใต้ข้อกำหนดของสัญญาที่ท่านทำกับบริษัทฯ และท่านไม่ให้ข้อมูลเมื่อได้รับการร้องขอ บริษัทฯ ไม่อาจปฏิบัติตามสัญญาที่บริษัทฯ ได้ทำ หรือกำลังพยายามทำกับท่าน (เช่น ให้บริการบัตรแก่ท่าน) หากเป็นกรณีเช่นนั้น บริษัทฯ อาจต้องยกเลิกผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่ท่านมีอยู่กับบริษัทฯ

5. การถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยไปยังต่างประเทศ

เจซีบี คัมพานี ลิมิเต็ด เป็นบริษัทญี่ปุ่น และเพื่อให้บริการแก่ท่าน บริษัทฯ จะทำการประมวลผลข้อมูลในประเทศญี่ปุ่น จึงจำเป็นต้องทำการถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยไปยังประเทศญี่ปุ่นเพื่อประโยชน์ในการใช้ ดังระบุในข้อ 1 และข้อ 2 ข้างต้น โปรดทราบว่า กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศญี่ปุ่นอาจแตกต่างจากกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับกับท่านในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีการปกป้องข้อมูลอย่างเพียงพอตามข้อกำหนดของกฎหมายที่มีผลบังคับ บริษัทฯ จะทำการถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้รับนอกประเทศไทยเฉพาะในกรณีที่พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ หรือกฎหมายที่ใช้บังคับอื่น ๆ อนุญาตให้ทำได้เท่านั้น

หากบัตรเจซีบีของท่านออกโดยผู้ออกบัตรที่เป็นบุคคลภายนอก และท่านใช้บัตรเจซีบีของท่านที่ร้านค้าในประเทศไทย เจซีบี คัมพานี และเจซีบีไอ จำเป็นต้องถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่านไปยังผู้ออกบัตรที่เป็นบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องเพื่อยืนยันตัวตน อนุมัติ และชำระเงินสำหรับธุรกรรมการชำระเงินด้วยบัตรของท่าน ผู้ออกบัตรที่เป็นบุคคลภายนอกดังกล่าวอาจตั้งอยู่ในประเทศซึ่งมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลที่แตกต่างไป โปรดทราบว่า ท่านสามารถคัดค้านการถ่ายโอนข้อมูลนี้ ณ เวลาใด ๆ ก็ได้ โดยติดต่อกับบริษัทฯ ตามรายละเอียดการติดต่อที่ระบุในข้อ 12 ด้างล่างนี้ แต่การกระทำเช่นนี้จะเป็นการจำกัดการใช้บัตรเจซีบีของท่านต่อไปในบางกรณี แต่จะไม่กระทบต่อหน้าที่ของท่านที่มีต่อบริษัทฯ และผู้ออกบัตรที่เป็นบุคคลภายนอก

หากบัตรเจซีบีของท่านออกโดยเจซีบี คัมพานี หรือผู้ออกบัตรที่ได้รับแฟรนไชน์ และท่านใช้บัตรเจซีบีของท่านที่ร้านค้าในประเทศไทย ซึ่งใช้บริการเจ/ซีเคียว (J/Secure authentication service) เจซีบี คัมพานี ลิมิเต็ดและผู้ออกบัตรที่ได้รับแฟรนไชน์ จำเป็นต้องถ่ายโอนข้อมูลที่เป็นลักษณะเฉพาะของท่านไปยังผู้ให้บริการโซลูชั่นยืนยันตัวตนบนพื้นฐานความเสี่ยงเพื่อให้อยู่ในระดับความน่าเชื่อถือของอัตลักษณ์ซึ่งนำมาใช้ในการป้องกันท่านจากธุรกรรมที่ทุจริต ผู้ให้บริการโซลูชั่นยืนยันตัวตนบนพื้นฐานความเสี่ยงดังกล่าวอาจตั้งอยู่ในประเทศที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ต่างกันไป โปรดทราบว่า ท่านสามารถคัดค้านการถ่ายโอนข้อมูลนี้ ณ เวลาใด ๆ ก็ได้ โดยติดต่อกับบริษัทฯ ตามรายละเอียดการติดต่อที่ระบุในข้อ 12 ด้านล่างนี้ แต่การกระทำเช่นนี้ จะเป็นการจำกัดการใช้บัตรเจซีบีของท่านต่อไปบางกรณี

6. สิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทย

ท่านมีสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่านที่บริษัทฯ ถือครองอยู่ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูล ดังต่อไปนี้

(1) สิทธิในการเข้าถึง

ท่านสามารถขอรายละเอียดข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่านที่บริษัทฯ ถือครองอยู่ บริษัทฯ จะยืนยันว่าบริษัทฯ กำลังทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่านอยู่หรือไม่ และบริษัทฯ จะเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมซึ่งรวมถึงประเภทของข้อมูล แหล่งที่มาของข้อมูล วัตถุประสงค์ และหลักเกณฑ์ทางกฎหมายสำหรับการประมวลผลข้อมูล ระยะเวลาที่คาดว่าจะเก็บข้อมูล และการป้องกันเกี่ยวกับการถ่ายโอนข้อมูลไปยังประเทศอื่น ภายใต้ข้อจำกัดที่ระบุในกฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับ บริษัทฯ จะจัดส่งสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่านให้แก่ท่านโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่บริษัทฯ อาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับบริหารจัดการ หากท่านขอสำเนาข้อมูลนั้นเพิ่มเติม
บริษัทฯ จะปฏิเสธคำขอเข้าถึงข้อมูลของท่านหาก (1) เป็นการปฏิเสธภายใต้กฎหมาย หรือคำสั่งศาล หรือ (2) คำขอดังกล่าวจะก่อให้เกิดผลกระทบซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น

(2) สิทธิในการแก้ไข

บริษัทฯ จะปฏิบัติตามการร้องขอของท่านให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่านในส่วนที่ไม่สมบูรณ์ หรือไม่ถูกต้อง แต่ทั้งนี้บริษัทฯ อาจจำเป็นต้องตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลใหม่ที่ท่านให้แก่บริษัทฯ ในกรณีดังกล่าว

(3) สิทธิที่จะถูกลืม

เมื่อได้รับการร้องขอจากท่าน บริษัทฯ จะลบ หรือระบุนามแฝงสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่านโดยทันที หาก

  • บริษัทฯ ไม่มีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่านอีกต่อไป

  • ท่านเพิกถอนความยินยอมซึ่งเป็นหลักเกณฑ์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่าน

  • ท่านคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่าน และไม่มีเหตุผลอันชอบด้วยกฎหมายที่อยู่เหนือการประมวลผลข้อมูลดังกล่าว หรือมีการคัดค้านเกี่ยวกับการตลาดทางตรง หรือ

  • ข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่านถูกประมวลผลโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

บริษัทฯ จะปฏิเสธการร้องขอให้ลบข้อมูลของท่าน หากบริษัทฯ มีความจำเป็นต้องทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่าน

  • เพื่อเสรีภาพในการแสดงความเห็น

  • เพื่อปฏิบัติหน้าที่ของบริษัทฯ ตามกฎหมาย

  • เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

  • เพื่อตรวจหา คาดการณ์ และติดตามการทุจริต หรือ

  • สำหรับการดำเนินงานเพื่อประโยชน์สาธารณะ

(4) สิทธิในการขอให้หยุดใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่านเพื่อการตลาดทางตรง

เมื่อได้รับการร้องขอจากท่าน บริษัทฯ จะหยุดใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่านเพื่อการตลาดทางตรง หากท่านประสงค์ที่จะให้บริษัทฯ หยุดการติดต่อท่านทางโทรศัพท์ หรืทางทางอีเมล เกี่ยวกับการสื่อสารด้านการตลาด โปรดส่งอีเมลถึงบริษัทฯ ตามที่อยู่อีเมลที่ระบุในข้อ 12 ติดต่อกับบริษัทฯ ของประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

โปรดทราบว่า แม้บริษัทฯ จะหยุดการสื่อสารด้านการตลาดทั้งหมด แต่ท่านอาจยังได้รับการสื่อสารเชิงบริหารจัดการจากบริษัทฯ

(5) สิทธิในการจำกัดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่าน

เมื่อได้รับการร้องขอจากท่าน บริษัทฯ จะจำกัดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่าน หาก

  • ท่านโต้แย้งความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่าน

  • ข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่านถูกประมวลผลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และท่านขอให้จำกัดการประมวลข้อมูลแทนการลบข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่าน

  • บริษัทฯ ไม่จำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่านอีกต่อไป แต่ท่านประสงค์ที่จะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่านเพื่อใช้ในการเรียกร้องทางกฎหมาย หรือ

  • ท่านคัดค้านการประมวลผลที่อยู่ในระหว่างรอการตรวจสอบว่ามีเหตุผลทางกฎหมายที่อยู่เหนือกว่าสำหรับการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวหรือไม่

บริษัทฯ อาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่านไว้ต่อไปในกรณีที่จำเป็น ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการร้องขอของท่านที่ให้จำกัดการประมวลผลข้อมูลจะได้รับการเคารพในอนาคต

(6) สิทธิในการโอนย้ายข้อมูล

เมื่อได้รับการร้องขอจากท่าน บริษัทฯ จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่านในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หาก

  • ท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยแก่บริษัทฯ

  • การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่านดำเนินการตามความยินยอมของท่าน หรือที่กำหนดให้ต้องดำเนินการเพื่อปฏิบัติตามสัญญา หรือ

  • การประมวลผลข้อมูลดำเนินการโดยวิธีการอัตโนมัต

บริษัทฯ ไม่อาจดำเนินการตามการร้องขอของท่านในเรื่องที่ขัดต่อการส่งหรือการถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลโดยบริษัทฯ ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย หรือหากว่าการใช้สิทธิดังกล่าวจะเป็นการละเมิดสิทธิ หรือเสรีภาพของบุคคลอื่น

(7) สิทธิในการคัดค้าน

ในกรณีที่บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่านตามผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ (หรือของบุคคลภายนอก) ท่านมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลนี้ด้วยเหตุผลเกี่ยวกับสถานการณ์เฉพาะของท่าน หากท่านรู้สึกว่า สิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของท่านได้รับการกระทบจากการประมวลผลเช่นนั้น บริษัทฯ จะปฏิบัติตามการร้องขอของท่านเฉพาะในกรณีดังต่อไปนี้เท่านั้น

  • ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่านถูกเก็บรวบรวมโดยบริษัทฯ เพื่อ (ก) ประโยชน์สาธารณะ (ข) บริษัทฯ ปฏิบัติตามคำสั่งทางราชการ หรือ (ค) ผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายใด ๆ ของบริษัทฯ หรือนิติบุคคลอื่น เว้นแต่บริษัทฯ มีเหตุผลที่ชอบด้วยกฎหมายที่จำเป็นสำหรับการประมวลผลข้อมูลซึ่งอยู่เหนือสิทธิและเสรีภาพของท่าน หรือในกรณีที่การประมวลผลข้อมูลเกี่ยวข้องกับการก่อให้เกิด การใช้สิทธิ หรือการต่อสู้ ข้อเรียกร้องทางกฎหมาย

  • ในกรณีที่บริษัทฯ ได้ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่านเพื่อการตลาดทางตรง และ

  • ในกรณีที่บริษัทฯ ได้ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่านเพื่อการวิจัยใด ๆ ดังระบุไว้ในกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงวัตถุประสงค์ทางสถิติ

(8) สิทธิที่จะไม่อยู่ภายใต้การตัดสินใจบนพื้นฐานของการประมวลผลข้อมูลโดยอัตโนมัติเพียงอย่างเดียว (Automated Decision-Making)

ท่านจะไม่อยู่ภายใต้การตัดสินใจที่มีผลกระทบทางกฎหมาย หรืออย่างมีนัยสำคัญที่คล้ายคลึงกัน (ซึ่งรวมถึงการจัด
โปรไฟลิ่งที่เกี่ยวกับตัวท่าน) ที่ขึ้นอยู่กับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่านโดยอัตโนมัติเพียงอย่างเดียว ทั้งนี้ เว้นแต่ท่านได้ให้ความยินยอมโดยชัดแจ้งแก่บริษัทฯ หรือในการทำเช่นนั้น จำเป็นสำหรับสัญญาที่ท่านมีกับบริษัทฯ

(9) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม

ท่านมีสิทธิเพิกถอนความยินยอมใด ๆ ที่ท่านอาจได้ให้ไว้กับบริษัทฯได้ทุกเมื่อ

(10) สิทธิในการร้องเรียนต่อหน่วยงานกำกับดูแล

หากท่านไม่พอใจคำตอบของบริษัทฯ ท่านมีสิทธิร้องเรียน หรือขอคำปรึกษาจากหน่วยงานกำกับดูแลที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย และ/หรือฟ้องร้องบริษัทฯ ต่อศาลที่มีเขตอำนาจในการนั้น

หากท่านประสงค์ที่จะติดต่อกับบริษัทฯ เกี่ยวกับการใช้สิทธิของท่านดังที่ระบุข้างต้น โปรดส่งอีเมลถึงบริษัทฯ ตามที่อยู่อีเมลที่ระบุไว้ในข้อ 12 ติดต่อบริษัทฯ ของประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ บริษัทฯ จะตอบกลับหนังสือร้องขอของท่านโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และไม่เกินสามสิบ (30) วัน นับจากได้รับหนังสือร้องขอดังกล่าว

เว้นแต่ระบุไว้เป็นประการอื่น บริษัทฯ จะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมใด ๆ จากท่านเกี่ยวกับการใช้สิทธิของท่าน ตราบเท่าที่สามารถทำได้ บริษัทฯ จะแจ้งให้ผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่านทราบถึงการแก้ไข การลบ และ/หรือการจำกัดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่าน

โปรดทราบว่า หากท่านตัดสินใจใช้สิทธิภายใต้ข้อย่อย (3) (4) (5) (6) (7) (8) และ (9) ซึ่งขึ้นอยู่กับคำตอบของบริษัทฯ ท่านอาจจะไม่สามารถรับประโยชน์อย่างเต็มที่จากสิทธิประโยชน์และบริการทั้งหมดของบริษัทฯ ตั้งแต่นั้น

7. ระยะเวลาการเก็บข้อมูล

บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่านไว้ในแฟ้มข้อมูลนานเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ ดังระบุในตารางในข้อ 1 การเก็บรวบรวม การใช้ และหลักเกณฑ์ทางกฎหมายของข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทย ข้างต้น

บริษัทฯ เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยเฉพาะเท่าที่กฎหมายที่ใช้บังคับกับบริษัทฯ อนุญาตให้ทำได้ ซึ่งโดยปกติเป็นระยะเวลาสูงสุด 10 ปี หรือนานกว่านั้น หากกฎหมายกำหนดไว้โดยเฉพาะเจาะจง

โปรดทราบว่า เจซีบีอยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายและกฎระเบียบจำนวนมากทั่วโลก ซึ่งอาจกำหนดให้ต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยไว้เป็นระยะเวลานานกว่านั้น เช่น เกี่ยวกับการยื่นภาษี การสอบสวนของทางราชการ การสอบสวนการทุจริต การติดตามการทำธุรกรรมและการฟ้องร้องดำเนินคดี และการระงับข้อพิพาทตามนโยบายการเก็บรักษาข้อมูล ข้อมูลของท่านจะถูกเก็บรักษาไว้อย่างปลอดภัย หากท่านมีข้อสงสัยประการใดเกี่ยวกับวิธีการและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่าน ท่านอาจติดต่อมายังบริษัทฯ ตามที่อยู่อีเมลที่ระบุไว้ในข้อ 12 ติดต่อบริษัทฯ ของประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

8. การรักษาความปลอดภัย

บริษัทฯ มีระบบการบริหารจัดการเพื่อแก้ไขและป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต การสูญหาย การทำลาย การปลอมแปลง และการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทย ตลอดจนมีมาตรการทางเทคนิคและด้านองค์กรที่เหมาะสมเพื่อระบุความเสี่ยงดังกล่าว ตามรายละเอียดด้านล่างนี้ เป้าหมายของมาตรการเหล่านี้คือ เพื่อคงไว้ซึ่งมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลและเพื่อให้บริษัทฯ มีการป้องกันที่จำเป็นสำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทย

  • (1)

    บริษัทฯ จำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยไว้สำหรับผู้บริหารและพนักงานที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น

  • (2)

    บริษัทฯ จำกัดการเก็บรวบรวมและการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยเพียงเท่าที่จำเป็นสำหรับการให้บริการและการบริหารจัดการการดำเนินงานของบริษัทฯ

  • (3)

    หากบริษัทฯ ว่าจ้างบุคคลภายนอกให้ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทย บริษัทฯ จะคัดเลือกผู้ที่มีมาตรการปกป้องข้อมูลที่เพียงพอซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของบริษัทฯ และบริษัทฯ จะตรวจสอบการปฏิบัติตามนโยบาย กฎหมาย และกฎระเบียบเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับของผู้นั้นอย่างสม่ำเสมอ

  • (4)

    บริษัทฯ มุ่งมั่นในการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

  • (5)

    ในกรณีที่จำเป็น บริษัทฯ จะใช้นามแฝงและใส่รหัสข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทย

  • (6)

    บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะดำเนินการให้ระบบและบริการของบริษัทฯ ได้รับการเก็บรักษาไว้เป็นความลับ มีความสมบูรณ์ พร้อมใช้งาน และสามารถกู้คืนได้

  • (7)

    บริษัทฯ มีระบบที่บริษัทฯ สามารถทำให้ความพร้อมใช้งานและการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยกลับคืนสู่สภาพเดิมได้ทันตามเวลา ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ทางกายภาพหรือทางเทคนิค

  • (8)

    บริษัทฯ ทำการตรวจสอบ กำหนดค่า และประเมินผลความมีประสิทธิภาพของมาตรการด้านเทคนิคและด้านองค์กรอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้การประมวลผลข้อมูลของบริษัทฯ มีความปลอดภัย

9. ความรับผิดชอบ

บริษัทฯ รับผิดชอบในการปกป้องการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทย และบริษัทฯ เก็บบันทึกทางอิเล็กทรอนิกส์ของกิจกรรมการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของบริษัทไว้ทั้งหมด

10. การปรับปรุง

ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับประเทศไทยฉบับนี้อาจได้รับการปรับปรุงเพื่อแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของบริษัทฯ บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทฯ ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงในประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้อย่างมีนัยสำคัญ

11. คำศัพท์

คำบางคำในประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้มีความหมายดังระบุไว้ด้านล่างนี้

  • ผู้รับบัตร: สถาบันการเงิน หรือบุคคลอื่นที่ทำสัญญากับร้านค้าสำหรับธุรกรรมการชำระเงินด้วยบัตรเจซีบี

  • พันธมิตรที่มีความใกล้ชิด: บุคคลภายนอกที่ได้รับอนุญาตให้นำเสนอบัตรร่วมเจซีบี (co-branded JCB card)

  • ความยินยอม: เมื่อท่านได้ให้ความยินยอมโดยชัดแจ้งแก่บริษัทฯ ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่าน

  • สัญญา: อนุญาตให้บริษัทฯ ปฏิบัติตามสัญญาของบริษัทฯ ที่มีกับท่านได้

  • ผู้ออกบัตรที่ได้รับแฟรนไชส์: บริษัทที่สามารถออกบัตรแบรนด์เจซีบีร่วมกับบริษัทฯ ในประเทศญี่ปุ่นได้

  • บริการยืนยันตัวตนเจ/ซีเคียว: โปรแกรมการยืนยันตัวตนของเจซีบีเพื่อตรวจสอบการยืนยันตัวตนของผู้ถือบัตรซึ่งทำให้มีการประมวลผลธุรกรรมการชำระเงินด้วยบัตรในสภาพแวดล้อมระยะไกลได้อย่างปลอดภัย

  • ผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมาย: ในกรณีที่จำเป็นเพื่อผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลภายนอก และผลประโยชน์และสิทธิขั้นพื้นฐานของท่านมิได้อยู่เหนือผลประโยชน์เหล่านั้น

  • หน้าที่ตามกฎหมาย: ในกรณีที่บริษัทฯ จำเป็นต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย (เช่น การปฏิบัติตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการทุจริต หรือการปฏิบัติตามคำสั่งศาล)

  • ร้านค้า: ร้านค้าที่มีการทำธุรกรรมด้วยบัตรเจซีบี

  • หน่วยงานราชการ: หน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานรัฐ และนิติบุคคลของรัฐซึ่งดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทย บริษัทฯ อาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่านแก่หน่วยงานราชการเหล่านี้ในการปฏิบัติหน้าที่ของบริษัทฯ ตามกฎหมายและกฎระเบียบ

  • ผู้ให้บริการ: บริษัทฯ อาจว่าจ้างผู้ให้บริการ ซึ่งรวมถึงสถาบันการเงินที่ออกบัตร สถาบันการเงินที่จัดหาร้านค้าและทำธุรกรรมที่ชำระเงินด้วยบัตร ผู้รับจ้างช่วงสำหรับธุรกรรมที่ชำระเงินด้วยบัตร และการให้บริการ และผู้ให้บริการซึ่งอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมที่ชำระเงินด้วยบัตร และติดตามการเข้าถึงบัตรโดยไม่ได้รับอนุญาต บุคคลภายนอกเหล่านี้อาจเข้าถึง หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยประการอื่นในระหว่างการให้บริการเหล่านี้ และอาจจะไม่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่าน เว้นแต่มีเหตุผลตามกฎหมายที่เพียงพอในการดำเนินการดังกล่าว ผู้ให้บริการที่เป็นบุคคลภายนอกและผู้รับจ้างช่วงทั้งหมดถูกกำหนดโดยสัญญาให้ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและข้อกำหนดการรักษาความปลอดภัยทั้งหมดที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยของท่าน

  • ผู้ให้บริการโซลูชั่นยืนยันตัวตนบนพื้นฐานความเสี่ยง: บริษัทอาจว่าจ้างผู้ให้บริการที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในการช่วยเหลือบริษัทฯ ในการยืนยันตัวตนของผู้ถือบัตร และธุรกรรมต่าง ๆ โดยการวิเคราะห์ข้อมูลธุรกรรม และข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย และ

  • ผู้ออกบัตรที่เป็นบุคคลภายนอก: บริษัทที่สามารถออกบัตรแบรนด์เจซีบีได้อย่างเป็นอิสระโดยได้รับอนุญาต

12. ติดต่อบริษัทฯ

หากท่านมีข้อสงสัย หรือข้อคิดเห็นประการใดเกี่ยวกับประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หรือหากท่านมีการร้องขอเกี่ยวกับข้อมูลที่ท่านให้ไว้แก่บริษัทฯ ท่านอาจส่งอีเมลมายังบริษัทฯ หรือส่งหนังสือมายังที่อยู่ด้านล่างนี้

เจซีบี คัมพานี ลิมิเต็ด อาโอยามะ ไรส์ สแควร์ 5-1-22 มินามิ อาโอยามะ มินาโตะ-กุ โตเกียว 107-8686 ประเทศญี่ปุ่น เจซีบี คัมพานี ลิมิเต็ด
jcb-eudataprotection@info.jcb.co.jp
เจซีบี อินเตอร์เนชั่นแนล คัมพานี ลิมิเต็ด อาโอยามะ ไรส์ สแควร์ 5-1-22 มินามิ อาโอยามะ
มินาโตะ-กุ โตเกียว 107-8686 ประเทศญี่ปุ่น
เจซีบี อินเตอร์เนชั่นแนล คัมพานี ลิมิเต็ด
jcbinter-eudataprotection@info.jcb.co.jp
บริษัท เจซีบี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย)จำกัด 500 อาคารอัมรินทร์ พลาซ่า ชั้น 9 ห้องเลขที่ 3 ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10310 เจซีบี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย)
pdpa@jcb.co.th

นอกจากนี้ ท่านอาจติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลได้ที่ dpo@jcb.co.th

TH Privacy Notice (English)

ปรับปรุงล่าสุด วันที่ 1 มิถุนายน 2565